รถยนต์ อายุมากกว่า 10 ปีเป็นต้นไป จะมีวิธีดูแลอย่างไร

carpook

 รถยนต์ หากดูแลรักษาเป็นอย่างดีจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่มีความรู้เบื้องต้นการดูแลรักษารถ มักจะมีความทำให้รถยนต์อยู่ในสภาพพร้อมออกเดินทางได้เสมอ ไม่ว่าจะระยะทางใกล้หรือไกลก็ตาม หากใช้งานรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มคามปลอดภัยในระหว่างการขับขี่ได้เป็นอย่างมาก หากใครที่อยากจะรู้ว่าวิธีดูแลรักษารถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นมือ 1 หรือ รถมือสอง ก่อนใช้งานที่ถูกต้องมีขั้นตอนปฎิบัติอย่างไรบ้าง ก็มาดูวิธีตรวจสอบและบำรุงรักษากับเว็บไซต์ของเราได้เลย

รถยนต์ 10 ปีเป็นต้นไปจะต้องมีการดูแลด้วยการประเมินผล 

รถยนต์ ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีเป็นต้นไป ส่วนใหญ่แล้วเป็นรถยนต์ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ 50,000 – 100,000 กิโลเป็นต้นไป จึงทำให้อะไหล่การใช้งานบางส่วน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการวิเคราะห์ก่อนที่จะซ่อมบำรุง แน่นอนเลยว่าพื้นที่การใช้งานในแต่ละพื้นที่ อาจจะต้องมีการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอะไหล่ที่มีความแตกต่างกัน รถมือสอง จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้แหล่งที่มา หรือการจดป้ายทะเบียนเดิมว่าอยู่ในพื้นที่ใดนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใน กรุงเทพฯ เขตปริมณฑล หรือพื้นที่ต่างจังหวัดก็ตาม หากผู้ใช้งานรู้ว่าควรที่จะซ่อมแซมซ่อมบำรุงในส่วนใด ก็จะช่วยให้บำรุงหรือเปลี่ยนอะไหล่ได้ตรงจุดนั่นเอง  ความรู้เบื้องต้นในการประเมินผลการใช้งาน จึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับรถที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป 

รถยนต์ อายุ 10 ปี รายการที่จะต้องมีการเปลี่ยนเพื่อดูแลรักษา 

เมื่อต้องเข้าไปซ่อมแซมดูแลรักษา รถมือสอง หรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปีเป็นต้นไป แน่นอนเลยรถต่างๆเหล่านี้ผ่านการใช้งานมาอย่างยาว บางคันอาจจะมีสภาพเสื่อมโทรมในบางจุด หรือบางครั้งอาจจะมีสภาพใหม่ ซึ่งการประเมินในการใช้งานนั้น เราจะไม่สามารถดูเฉพาะภายนอกได้ การเข้าไปตรวจเช็คตามจุดต่างๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ขับขี่ จะต้องดูแลเพื่อซ่อมแซม และเอาใจใส่เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง หากใครอยากรู้ว่ามีส่วนใดกันบ้าง สำหรับรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปีจะต้องดูแล ก็เข้าไปดูข้อมูลต่างๆได้ดังต่อไป 

  • สายพานไทม์มิ่ง เป็นลักษณะของสายพานหรือรถบางคันจะอยู่ในลักษณะของโซ่ เมื่อมีการใช้งานในระยะทุกๆ 100,000 กิโลเมตรเป็นต้นไป มักจะเกิดการชำรุดแตกร้าวหรือเสื่อมสภาพลง จึงทำให้ควรที่จะเปลี่ยนชุดใหม่ให้เร็วมากที่สุด โดยจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,300 – 3,000 บาท แล้วแต่ขนาดของเครื่องยนต์และรุ่นของรถ 
  • สายคันเร่ง สายคลัตช์ เป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่หลายๆคนมักจะมองข้าม ไม่ว่าผู้ใช้งานหรือช่างก็ตาม มักจะปล่อยปละละเลยสายสลิงที่อยู่ในบริเวณคลาสและคลัชเร่ง เมื่อเกิดเสื่อมสภาพอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ เพราะฉะนั้นควรที่จะเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี หรือมีการขับขี่ตั้งแต่ 150,000 กิโลเมตรเป็นต้นไป 
  • หัวเทียน ตัวจุดระเบิดเครื่องยนต์ ที่ควรจะเปลี่ยนทุกระยะ 100,000 กิโลเมตร โดยรถบางคันจะมีหัวเทียนตั้งแต่ 4 ตัวเป็นต้นไป โดยแต่ละตัวจะมีหน้าที่ทำงานในการจุดระเบิดแยกกัน จึงทำให้การเสื่อมสภาพของแต่ละตัว อาจจะมีผลต่อเครื่องยนต์อย่างชัดเจน 
  • Air Flow Sensor และ ปีกผีเสื้อ ระบบกรองหรือระบบเซ็นเซอร์ระหว่างอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ เป็นจุดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญกับเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก หากมีระยะการใช้งานไม่เกิน 10 ปี สามารถนำมาทำความสะอาดได้ โดยปัจจุบันมีน้ำยาในการทำความสะอาด ซึ่งจะช่วยดูแลรักษาปีกผีเสื้อได้เป็นอย่างดี 
  • กรองอากาศ เป็นส่วนที่จะต้องเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กิโลเมตร โดยระหว่างระยะทางนั้นควรที่จะนำมาทำความสะอาด เพื่อดูแลสภาพห้องโดยสารและเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ 
  • น้ำมันเครื่อง และกรองน้ำมันเครื่อง มีระยะการใช้งานตั้งแต่ 30,000 – 40,000 กิโลเมตร หรือรถที่จอดทิ้งไว้นาน เกิน 2 ปี วันที่จะเปลี่ยนเช่นกัน 
  • น้ำมันเกียร์ น้ำมันสำหรับช่วยในการหล่อลื่นการเสียดสีของฟันเฟืองในระบบเกียร์ ควรจะเปลี่ยนลูก 2-3 ปี หรือระยะการใช้งานตั้งแต่ 40,000-60,000 กิโลเมตร 
  • น้ำมันเบรก เป็นสารหล่อลื่นที่ใช้อัดของระบบเบรค หากมีแรงดันไม่พออาจจะส่งผลถึงประสิทธิภาพในการเบรคของรถได้ ควรที่จะตรวจเช็คน้ำมันเบรคทุกๆ 1 ปี 
  • ผ้าเบรก หรือจานเบรค ถ้าขับขี่ผิดปกติหรือใช้งานครบ 4-5 ปี ระบบเบรคจะมีเสียงดังหรือการเสื่อมสภาพลง ควรที่จะเปลี่ยนทันที 
  • ยางรถยนต์ มีอายุในการใช้งานตั้งแต่ระยะ 50,000 – 100,000 กิโลเมตร โดยขึ้นอยู่กับสภาพยางและการใช้งาน หากต้องการความปลอดภัยในระดับสูง ควรเปลี่ยนยางในระยะเวลาทุกๆ 2 ปี 

รถเกียร์ออโต้ อายุ 10 ปี ดูแลรักษาได้ไม่ยาก 

รถยนต์ ในปัจจุบันมีหลากหลายระบบในการใช้งาน ซึ่งนอกจากรถเกียร์ธรรมดาแล้ว รถเกียร์ออโต้ เป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลาย แน่นอนเลยว่าการดูแลรักษาอาจจะต้องมีการศึกษาเป็นพิเศษ เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะรถที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป ควรที่จะมองหาจุดดูแลเป็นพิเศษดังต่อไปนี้ 

  • ระบบเกียร์ ถือว่าสำคัญอย่างมากที่จะช่วยในการขับเคลื่อน โดยรถระบบออโต้นั้น จะมีการทดเกียร์ด้วยฟันเฟืองอัตโนมัติ จึงทำให้การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง และสายพานไทม์มิ่ง จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ 
  • ศึกษาวิธีขับและพฤติกรรมในการขับขี่ หากสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และขับขี่ได้อย่างถนอมรถเป็นอย่างดี จะช่วยให้มีอายุในการใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น 
  • การอ่านคู่มือและศึกษาเกี่ยวกับระบบเกียร์ โดยเฉพาะใครที่ต้องขึ้นเขาลงเขาบ่อยๆ อาจจะต้องใช้งานเกี่ยวกับระบบเกียร์ S และเกียร์ L เพิ่มเติม 
  • เข้าตรวจสภาพรถยนต์ในศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าหรือระบบเครื่องยนต์ทุกๆ 10,000 กม. 

รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดาก็ตาม หากมีการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง รถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 10 – 20 ปี ก็สามารถนำมาขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน การบำรุงรักษารถให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการถนอมยานพาหนะของเราให้มีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานนั่นเอง 

1 comment

You May Have Missed