รถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคนี้ 

รถยนต์ไฟฟ้า หรือที่หลายๆคนเรียกว่ารถ EV ยานพาหนะชนิดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ จึงทำให้ปัจจุบันได้เป็นกระแสความนิยมมากที่สุดของผู้ขับขี่อีกด้วย ด้วยแบรนด์รถไฟฟ้าชื่อดังทั่วโลกต่างก็ออกแบบยานพาหนะขึ้นมา ซึ่งมีทั้ง รถเก๋ง SUV รวมถึงรถกระบะ ที่มีการใช้งานได้หลากหลายประเภท แถมยังมีแรงม้าที่มากพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากใครที่สนใจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับรถไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน และรถไฟฟ้าที่ดีที่สุดว่ามาจากค่ายใดบ้าง ก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลต่างจากเว็บไซต์ของเราได้ทันที 

รถยนต์ไฟฟ้า 5 อันดับที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด 

ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า เป็นยานพาหนะที่ได้รับความสนใจมากที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ เพราะเนื่องจากในแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง และการโปรโมทต่างๆให้ความไว้วางใจกับผู้ใช้งานรถยนต์หลายๆคน ให้สามารถไว้วางใจในการซื้อรถประเภทไฟฟ้ามาขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ด้วย Option ต่างๆที่มีอยู่ภายในรถยนต์ ต่างก็แก้ไขปัญหาต่างๆที่หลายๆคนสงสัย และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ทุกคนต่างก็ชื่นชอบ และอยากจะมีรถดีๆที่นอกจากจะประหยัดพลังงาน มาขับขี่ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่ากับการใช้งานนั่นเอง หากใครอยากรู้ว่ารถระบบไฟฟ้าแบรนด์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลกับทางเว็บไซต์ของเราได้ดังนี้

• BYD Dolphin รถระบบไฟฟ้า 5 ประตู เป็นรถที่มีขนาดเล็กมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP บรรจุ 44.9 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานสำหรับคนที่ชื่นชอบเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลนัก เหมาะมากสำหรับการใช้งานกับพื้นที่อำนวยความสะดวกในการชาร์จแบตเตอรี่ จุดเด่นของ BYD Dolphin นั่นก็คือ การเปิดปิดหลังคากระจก Panoramic Glassroof ด้วยระบบไฟฟ้า แถมยังมีสวิตช์เปลี่ยนเกียร์แบบ Finger-touched Electronic Shift ใน 177 แรงม้า จึงทำให้การขับขี่มีความรู้สึกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การดีไซน์ต่างๆที่มีความทันสมัย มาพร้อมหน้าจอ infotainment ขนาด 12.8 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถหมุนได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งได้อีกด้วย การเปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 799,999 บาทเท่านั้น
• BYD Atto 3 รถระบบไฟฟ้า SUV ที่ทำให้คนไทยต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยการเปิดตัวเข้ามาตั้งแต่ปี 2023 ได้มียอดจองเป็นอันดับ 1 ของรถระบบไฟฟ้า ด้วยการทำงานจากระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน 1 ตัว 201 แรงม้า มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 49.9 กิโลวัตต์ต่อกิโลเมตร ซึ่งเป็นการทำงานของระบบพื้นฐานแพลตฟอร์ม 3.0 ระบบภายในและตัวถังมีความจุมากถึง 1,340 ลิตร มาพร้อมกับระบบพับเบาะหลังและฝาท้ายเปิดด้วยระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีกระจกหลังคาเปิดปิดด้วย Panoramic Sunroof จึงทำให้ระยะการวิ่งเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 410 กิโลเมตร เป็นที่พึงพอใจสำหรับคนที่ชื่นชอบรถ SUV โดยเฉพาะนั่นเอง 
• BMW iX3 รถไฟฟ้านำเข้าอยู่ CBU ด้วยฐานผลิตจากจีน หนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก การเปิดตัวเข้ามาด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3,699,000 บาท จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่มีใจรักรถระบบพลังงานไฟฟ้าเลยแม้แต่น้อย เพราะเนื่องจากระบบควบคุมต่างๆได้ถูกออกแบบขึ้นมาได้มาตรฐาน ด้วยการชาร์จแบตเพียง 1 ครั้ง จะสามารถขับขี่ได้ถึง 470 กิโลเมตร และมาพร้อมกับระบบมอเตอร์ 286 แรงม้า ซึ่งมี Option เสริมมากมายในสไตล์ยุโรป 
• Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์ EV SUV เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์สำหรับนักซิ่ง ด้วยการจัดอัตราเร่งตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียงแค่ 4.9 วินาที ด้วยพลังมอเตอร์ 2 ตัวขนาด 150 kv และมาพร้อมอัตราเครื่องยนต์ที่ 408 แรงม้า จึงทำให้ใครที่ชื่นชอบรถที่มีความแรงในการเคลื่อนที่ และมีขนาดแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ยาวๆในระยะทาง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จgเต็ม 1 ครั้ง จะคุ้มค่าราคาที่เริ่มต้น 2,590,000 บาทแน่นอน
• Tesla Model Y จากค่าย รถเทสล่า ที่มีผู้พูดถึงกันมากที่สุดในยุคปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัวที่ 1,959,000 บาท โดยมีให้เลือกใช้งานทั้ง SUV และ Model x ด้วยขนาดกะทัดรัดและราคาที่จับต้องได้ จึงเป็นรถรุ่นแรกของรถ EV ในประเทศไทย ที่ติดอันดับในการใช้งานมากที่สุดนั่นเอง ด้วยอัตราเร่งของการทำงานเครื่องยนต์ที่ 283 แรงม้า Standard และสามารถขับขี่ได้ถึง 510 กิโลเมตร กับการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง จึงเป็นที่ถูกใจสำหรับคนชื่นชอบระบบไฮเทคเทคโนโลยีบนรถยนต์อย่างแน่นอน 

รถยนต์ไฟฟ้า มีวิธีการดูแลบำรุงรักษาเบื้องต้นอย่างไร 

สำหรับรถที่มีพลังงานไฟฟ้าหรือที่เรียกกันว่ารถ EV ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง หรือ SUV ก็ตาม จะต้องมีการดูแลในระบบพื้นฐานให้ดีมากที่สุด เพราะเนื่องจากการทำงานด้วยระบบมอเตอร์ที่มีการกักเก็บระบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ อาจจะต้องมีการดูแลรักษามากเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าระบบภายนอกอาจจะดูไม่จุกจิกก็ตาม แต่ควรที่จะเข้าเช็คระยะทุกครั้งเมื่อครบ 10,000 กิโลเมตรนั่นเอง เพราะฉะนั้นหากรถคันใดที่ถูกจอดไว้โดยที่ไม่ได้ขับขี่ตั้งแต่ 6 เดือน หรือทำการขับขี่ทุกวันตามระยะที่จะต้องบำรุงรักษา ก็ควรที่จะเข้าทำการตรวจสอบระบบพื้นฐานของ รถยนต์ไฟฟ้า ได้ดังต่อไปนี้ 

• มอเตอร์ ส่วนใหญ่แล้วจะถูกติดตั้งไว้สำหรับการขับเคลื่อนล้อหน้า จะมีเพียงรถ SUV บางรุ่น ที่ถูกติดตั้งไว้สำหรับการขับเครื่องล้อหลังหรือทั้ง 4 ล้อ เพราะฉะนั้นการดูแลรักษาตามระยะทางที่กำหนด ควรที่จะเข้าไปให้กับผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการทำการตรวจสอบทุก 5,000 – 10,000 กิโลเมตร 
• ระบบเบรค เป็นระบบที่ถูกควบคุมจากระบบไฟฟ้าจะแตกต่างจากรถทั่วไป เพราะฉะนั้นควรที่จะมีการตรวจสอบระบบเบรคให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นผ้าเบรค สายไฟในการขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงหากมีการใช้งานและมีเสียงดัง ควรที่จะเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการทันที 
• แบตเตอรี่ เป็นอุปกรณ์รถ EV ที่มีความสำคัญมากที่สุด ควรที่จะบำรุงรักษาเพื่อมีอายุในการใช้งานอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อถึงระยะเวลาการเข้าตรวจเช็คในศูนย์บริการ เพื่อป้องกันกระแสไฟลัดวงจร หรือส่วนใดส่วนหนึ่งเสื่อมสภาพในขณะทำงาน จึงทำให้การเข้าไปเช็คระยะในศูนย์บริการทุกครั้งเมื่อถึงระยะการใช้งาน จะสามารถบอกสถานะและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี