รถกระบะมือสอง ทำประกันภัยประเภทใดเหมาะสมมากที่สุด
รถกระบะมือสอง หรือรถมือสอง เป็นรถที่ถูกใช้งานมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีอายุไม่ถึง 1 ปีก็ตาม แน่นอนเลยว่าเมื่อเจ้าของคนแรกได้ทำการปล่อยขายไม่ว่าจะกรณีใดๆ ผู้ที่ถือครองเป็นคนที่ 2 จากใบซื้อขายหรือสมุดคู่มือรถ ก็ควรที่จะมีวิธีการป้องกันดูแลรักษาทรัพย์สิน โดยเฉพาะในเรื่องของ ประกันภัยรถยนต์ เป็นส่วนที่ผู้ขับขี่จำเป็นจะต้องมีเพื่อป้องกันดูแลรักษาตนเอง และผู้ใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงมีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับรถยนต์มือสอง และประกันภัยประเภทใดที่เหมาะสมกับการดูแลทรัพย์สินและชีวิตดีที่สุด ก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลต่างๆได้จากเว็บไซต์ของเราได้ทันที

รถกระบะมือสอง ทำประกันภัยแบบไหนดี
รถกระบะมือสอง เป็นรถที่มักจะมีการใช้งานอย่างหนัก แน่นอนเลยว่ารถกระบะส่วนใหญ่จะมีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,500 ccเป็นต้นไป จึงเป็นเครื่องที่มีน้ำหนักสูง มีขนาดใหญ่และค่อนข้างจะมีการขับขี่ที่รวดเร็ว นอกจากนี้รถกระบะยังมี ราคารถยนต์ สูงกว่ารถประเภทอื่นๆ จึงทำให้การคุ้มครองต่างๆเกี่ยวกับการประกันภัยนั้น มักจะต้องใช้ประกันที่สูงมากที่สุดนั่นเอง เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่มีรถยนต์มีอายุตั้งแต่ 1-10 ปีเป็นต้นไป มักจะจดเป็นประกันชั้น 1 ในการคุ้มครองทรัพย์สิน ซึ่งมีการจำแนกเหตุผลต่างๆดังต่อไปนี้
- ราคาสูงการคุ้มครองประกันย่อมสูงไปตามกรณี เพราะฉะนั้นการเลือกประกันในระดับชั้นอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะสมและไม่สามารถคุ้มครองได้ครอบคลุมในการซ่อมแซมรถ เพราะฉะนั้นการเลือกประกันชั้น 1 หรือ 2+ จึงถูกเลือกมากที่สุดสำหรับรถยนต์ประเภทกระบะนั่นเอง
- รถกระบะที่มีอายุมากกว่า 10 ปี หากทำประกันชั้น 1 อาจจะต้องเสียเงินค่าคุ้มครองประกันค่อนข้างสูง และบางบริษัทอาจจะให้ค่าคุ้มครองไม่คุ้มค่าสำหรับการดูแล เพราะฉะนั้นการลดหลั่นราคาขึ้นมาในลักษณะของประกันชั้น 2+ ก็เหมาะสมกับ รถกระบะมือสอง เช่นกัน
- การเลือกทำประกันคุ้มครองในลักษณะของการซ่อมอู่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้คุ้มครองของรถกระบะที่เคยใช้งานผ่านมาตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้น การเลือกที่จะซ่อมในศูนย์บริการหรือซ่อมห้าง อาจจะทำให้ทุนประกันไม่เพียงพอสำหรับการซ่อมแซม หากเกิดในกรณีอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นการเลือกซ่อมอู่ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของประกันชั้น 1 หรือประกันชั้น 2 ก็ตาม ก็ถือว่าเหมาะสมกับรถประเภทนี้

รถมือสอง ควรได้รับการคุ้มครองจับกันภายในลักษณะใด
สำหรับการใช้งาน รถมือสอง ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือ รถกระบะ แน่นอนแล้วว่าหากใครที่ตัดสินใจในการเลือกซื้อเข้ามาเป็นที่เรียบร้อย อาจจำเป็นอย่างมากที่จะต้องหาประกันไว้สำหรับการคุ้มครองรถยนต์ แต่มีคนมากมายที่ไม่รู้ว่าจะเลือกประกันชนิดใด จึงจะเหมาะสมสำหรับรถของตนเองมากที่สุด วันนี้ก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลต่างๆได้จากเว็บไซต์ของเรา รับรองเลยว่าคุณจะค้นพบข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีเป็นต้นไป จนไปถึงรถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีได้อีกด้วย
- รถยนต์มือสอง ที่มีอายุตั้งแต่ไม่เกิน 10 ปี คุณสามารถใช้ประกันภัยในลักษณะของประกันชั้น 1 ได้ ด้วยได้หลายบริษัทได้เปิดให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ สามารถทำการผ่อนประกันหรือแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ในราคาประหยัด จึงทำให้การทำประกันภัยโดยปกติแล้วอาจจะต้องใช้เงินก้อน จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของคุณได้เป็นอย่างดี
- การเลือกศูนย์ซ่อมบริการที่เป็นอีกหนึ่ง Option มาจากประกันภัย สำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ค่อนข้างใหม่ และจำเป็นจะต้องมีการดูแลรักษาในระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นการเลือกซ่อมในศูนย์บริการ หรือการซ่อมห้างเฉพาะของแบรนด์รถต่างๆ ก็จะส่งผลดีกับการใช้งานมากที่สุด
- เรื่องประกันภัยที่สามารถคุ้มครองคุ้มค่ากับรถยนต์ แน่นอนเลยว่าการเข้าไปตีมูลค่าของรถยนต์ของเรานั้น หากรถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป อาจจะมีมูลค่าไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งการมีประกันภัยที่มีการคุ้มครองตั้งแต่ 500,000 บาทนั้น ถือว่าเหมาะสมสำหรับการใช้งานได้ถูกประเภทมากที่สุด
- ค่าดูแลรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณีหรือผู้ขับขี่รถยนต์ ก่อนที่จะมีค่ารักษาที่เหมาะสมมากที่สุด นอกจากนี้หากมีกรณีการเสียชีวิต ประกันที่ได้ทำไว้กับรถยนต์จะต้องมีการรับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายในและภายนอกสูงสุดตั้งแต่ 5,000,000 บาทเป็นต้นไป
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน จะมีผู้ดูแลช่างแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าหรือรถลากจูง ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม 24 ชั่วโมง ( ในกรณีประกันชั้น 1 )
- สามารถคุ้มครองในกรณีรถยนต์หาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เกิดพายุ หรือไปธรรมชาติ ซึ่งสามารถซื้อความปลอดภัยเพิ่มเติมก็ได้

ประเภทประกันภัยที่เหมาะกับรถยนต์มือสองมากที่สุด
การเลือกใช้งานประกันภัยสำหรับรถยนต์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องคำนวณมากที่สุดในการใช้งานของประกันนั่นก็คือ การคุ้มค่าสำหรับการคุ้มครองของรถยนต์ ซึ่ง ราคารถยนต์ จะเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่คุณจะสามารถคำนวณได้ว่า คนที่จะเลือกทำประกันในลักษณะใด เพราะเนื่องจากในปัจจุบันมีประกันมากมายและหลากหลายบริษัทเป็นอย่างมาก ที่พร้อมจะดูแลรถยนต์ของคุณได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งเป็นละประเภทดังต่อไปนี้
- ประกันชั้น 1 เป็นประกันที่เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดขับ แน่นอนเลยว่าคุณจะสามารถทำการเคลมประกัน หรือการซ่อมรถในศูนย์บริการและอู่ได้อย่างไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณีก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการชนกำแพง ชนเสาไฟฟ้า ชนฟุตบาท ยางแตก หินกระเด็น หรืออุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ
- ประกันชั้น 2+ เป็นประกันที่มีทักษะในการขับรถในระดับหนึ่ง โดยการคุ้มครองให้กับผู้ขับขี่และคู่กรณีเท่านั้น โดยประกันประเภทนี้จะช่วยดูแลทรัพย์สินค่ารักษาพยาบาล และประกันชีวิตให้กับผู้ขับขี่และคู่กรณี นอกจากนี้ประกันบางตัวยังคุ้มครองรถหาย น้ำท่วม ไฟไหม้ และลมพายุได้อีกด้วย
- ประกันชั้น 2 เป็นประกันที่คุ้มครองผู้เสียหายทั้งทรัพย์สิน สุขภาพ และประกันชีวิตให้กับคู่กรณีทั้งหมด แต่จะไม่สามารถคุ้มครองทรัพย์สินของผู้ขับขี่ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุเราจะต้องซ่อมรถของเราเอง
- ประกันชั้น 3+ เป็นประกันคุ้มครองต่อความเสียหายของรถยนต์ และมีประกันภัยเมื่อประสบอุบัติเหตุให้กับคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นร่างกายอนามัยและทรัพย์สิน แถมยังคุ้มครองความเสียหายอุบัติเหตุส่วนบุคคลให้กับผู้ขับขี่ แต่จะไม่คุ้มครองทรัพย์สินของผู้ขับขี่ ซึ่งจะต้องมีการจ่ายค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ของเราเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- ประกันชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายชีวิตของบุคคลภายนอก ทั้งทรัพย์สินและร่างกายของคู่กรณี ส่วนผู้ขับขี่จะได้รับการคุ้มครองเสียหายต่ออุบัติเหตุส่วนบุคคล

สำหรับการใช้งานประกัน รถกระบะ รถเก๋ง หรือรถยนต์ส่วนบุคคล สิ่งที่ประกันทุกตัวจะมอบให้กับผู้ที่ทำประกันนั่นก็คือ ในกรณีผู้ขับขี่ต้องคดีอาญา ถ้าประกันจะมีเงินค่าประกันตัวให้กับผู้ขับขี่ได้ออกมาสู้คดี ซึ่งเป็นส่วนที่ทางประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด จึงทำให้ผู้ขับขี่ที่ประสบอุบัติเหตุ จะมีระยะเวลาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อเจ้าหน้าที่และชั้นศาลนั่นเอง

Post Comment